ch_num
stringclasses
1 value
title
stringclasses
1 value
text
sequence
นิราศอิเหนา
[ [ "๏ นิราศร้างห่างเหเสนหา\n", "ปางอิเหนาเศร้าสุดถึงบุษบา\tพระพายพาพัดน้องเที่ยวล่องลอย\n", "ตลึงเหลียวเปลี่ยวเปล่าให้เหงาหงิม\tสุชลปริ่มเปี่ยมเหยาะเผาะเผาะผอย\n", "โอ้เย็นค่ำน้ำค้างลงพร่างพร้อย\tน้องจะลอยลมบนไปหนใด\n", "ฤๅเทวันชั้นฟ้ามาพาน้อง\tไปไว้ห้องช่องสวรรค์ที่ชั้นไหน\n", "แม้นน้องน้อยลอยถึงชั้นตรึงศ์ไตร\tสหัสนัยจะช่วยรับประคับประคอง\n", "ฤๅไปปะพระอาทิตย์พิศวาส\tไปร่วมอาสน์เวชยันต์ผันผยอง\n", "ฤๅเมขลาพาชวนนวลลออง\tเที่ยวลอยล่องเลียบฟ้าชมสาคร\n", "ฤๅไปริมหิมพานต์ชานไกรลาส\tบริเวณเมรุมาศราชศิงขร\n", "ฤๅจะออกนอกเนมินท์อิสินธร\tเที่ยวลอยร่อนรอบฟ้านภาไลย\n", "โอ้ลมแดงแสงแดดจะแผดส่อง\tจะมัวหมองมิ่งขวัญจะหวั่นไหว\n", "จะดั้นหมอกออกเมฆวิเวกใจ\tนี่เวรใดเด็ดสวาทให้คลาศคลา\n", "พระผันแปรแลรอบขอบทวีป\tเห็นแต่กลีบเมฆเคลื่อนเกลื่อนเวหา\n", "จะแลดูสุริยนต์ก็สนธยา\tจะดูฟ้าฟ้าคล้ำให้รำจวญ\n", "ฝืนวิโยคโศกเศร้าเข้าในห้อง\tเห็นแท่นทองที่ประธมภิรมย์สงวน\n", "ไม่เห็นนุชสุดจะทรงพระองค์ซวน\tลห้อยหวนหิวโหยด้วยโรยแรง\n", "ยลยี่ภู่ปูเปล่าเศร้าสลด\tระทวยทดทอดทบซบกรรแสง\n", "โอ้สุดแสนแค้นอารมณ์ด้วยลมแดง\tดูเหมือนแกล้งพัดไปให้ไกลทรวง\n", "เสียดายเอ๋ยเคยแอบแนบสนิท\tถึงชีวิตวอดวายไม่หายห่วง\n", "โอ้น้องนุชบุษบาสุดาดวง\tพี่เปล่าทรวงทรวงดังจะพังโทรม\n", "โอ้โพล้เพล้เวลาปานฉนี้\tเคยเข้าที่พี่เคยได้เชยโฉม\n", "เห็นแต่ห้องน้องน้อยลอยโพยม\tยามประโคมมิรู้ลืมเจ้าปลื้มใจ\n", "โอ้เขนยเคยหนุนยังอุ่นอ่อน\tแต่น้องน้อยลอยร่อนไปนอนไหน\n", "ยี่ภู่เอ๋ยเคยชิดสนิทใน\tวันนี้ไกลกลอยสวาทอนาถนอน\n", "โอ้รินรินกลิ่นนวลยังหวนหอม\tเคยถนอมแนบทรวงดวงสมร\n", "ยังรื่นรื่นชื่นใจอาไลยวอน\tสอื้นอ้อนอารมณ์ระทมทวี\n", "จนฆ้องค่ำย่ำหึ่งหึ่งกระหึม\tยิ่งเศร้าซึมโศกาถึงยาหยี\n", "โอ้ยามอยู่คูหาเวลานี้\tเคยพาทีทอดประทับไว้กับทรวง\n", "โอ้อกเอ๋ยเคยอุ่นลมุนลม่อม\tเคยโอบอ้อมอ่อนตามไม่ห้ามหวง\n", "ยังเคลิ้มเคล้นเช่นประทุมกระพุ่มพวง\tเคยแนบทรวงไสยาสน์ไม่คลาศคลาย\n", "จนเคลิ้มองค์หลงเชยเขนยหนุน\tถนอมอุ่นแอบประโลมว่าโฉมฉาย\n", "ครั้นรู้สึกดึกดื่นสอื้นอาย\tแสนเสียดายสุดจะดิ้นสิ้นชีวัน\n", "เห็นสิ่งของน้องนุชยิ่งสุดเศร้า\tพระไทยเฝ้าเคลิ้มไคล้ดังใฝ่ฝัน\n", "ยิ่งรำฦกตรึกตรายิ่งจาบัลย\tสุดจะกลั้นรีบออกนอกบรรพต\n", "พินิจจันทร์วันเพ็งขึ้นเปล่งแสง\tกระจ่างแจ้งแจ่มวงทั้งทรงกลด\n", "สี่พี่เลี้ยงเคียงพร้อมน้อมประนต\tพระเลี้ยวลดแลแสวงดูแสงเดือน\n", "ดูเก๋งก่อต่อเตาเห็นเงาคล้าย\tเขม้นหมายมุ่งไปก็ไม่เหมือน\n", "เห็นเงาไม้ไหวหวั่นให้ฟั่นเฟือน\tจนเดือนเคลื่อนคล้อยฟ้าให้อาวรณ์\n", "เห็นสระศรีที่เคยมาประพาศ\tรดะดาษดอกดวงบัวหลวงสลอน\n", "ลมรำเพยเชยชายกระจายจร\tหอมเกสรเสาวคนธ์ที่หล่นโรย\n", "โอ้รินรินกลิ่นบุหงาสะตาหมัน\tเหมือนกลิ่นจันทน์เจือนวลให้หวนโหย\n", "หอมยี่หุบสุกรมดอกยมโดย\tพระพายโชยเฉื่อยชื่นยืนตลึง\n", "โอ้ที่นี่ศีลาเคยมานั่ง\tเห็นบัลลังก์แล้วยิ่งนึกรำฦกถึง\n", "ดูเงื้อมเขาเงาไม้พระไทรซึ้ง\tเสียงหึ่งหึ่งผึ้งรวงเฝ้าหวงรัง\n", "จังหรีดหริ่งกิ่งไทรเรไรร้อง\tแว่วว่าน้องนึกเสียวพระเหลียวหลัง\n", "เห็นน้ำพุดุดั้นตรงบัลลังก์\tเคยมานั่งสรงชลที่บนเตียง\n", "เจ้าสรงด้วยช่วยพี่สีขนอง\tแต่น้ำต้องถูกนิดก็หวีดเสียง\n", "โอ้รื่นรื่นชื่นเชยที่เคยเคียง\tพระทรวงเพียงเผ่าร้อนถอนฤไทย\n", "ทุกเงื้อมเขาเหงาเงียบเซียบสงัด\tใบไม้กวัดแกว่งกิ่งประวิงไหว\n", "ยเยือกเย็นเส้นหญ้าพนาไลย\tยิ่งเยือกในทรวงช้ำระยำเย็น\n", "เที่ยวรอบสระประทุมาสตาหมัน\tเคยเห็นขวัญเนตรที่ไหนก็ไม่เห็น\n", "ชลไนยไหลซกตกกระเซ็น\tยิ่งเยือกเย็นหยุดยืนกลืนน้ำตา\n", "จนดึกดื่นรื่นรินกลิ่นกุหลาบ\tตะลึงเหลียวเสียวซาบอาบนาสา\n", "เหมือนปรางทองน้องนุชบุษบา\tฤๅกลับมายืนแฝงอยู่แห่งใด\n", "เที่ยวดูดาวเปล่าเปลี่ยวเสียวสดุ้ง\tจนจวนรุ่งรางรางสว่างไสว\n", "หนาวน้ำค้างพร่างพรมพนมไพร\tดวงดอกไม้บานแบ่งรับแสงทอง\n", "หอมมณฑาสารภีดอกยี่หุบ\tบ้างร่วงหรุบถูกอุระพระขนอง\n", "ภุมรินบินว่อนมาร่อนร้อง\tอาบละอองเกสรขจรจาย\n", "จนแจ่มแจ้งแสงสว่างนภางค์พื้น\tถอนสอื้นอาไลยพระไทยหาย\n", "ดูเวหาว่าแสนแค้นพระพาย\tไม่พาสายสวาทคืนมาชื่นใจ\n", "จำจะตามทรามชมทางลมพัด\tเผื่อจะพลัดตกลงที่ตรงไหน\n", "ดำริห์พลางทางสท้อนถอนฤไทย\tให้เตรียมพลสกลไกรจะไคลคลา\n", "จึงแปลงนามตามกันเปนปันจุเหร็จ\tจะเที่ยวเตร็ดเตร่ในไพรพฤกษา\n", "พลางอุ้มองค์ยาหยีวิยะดา\tขึ้นรถแก้วแววฟ้าแล้วพาไป\n", "พระเหลียวดูภูผาสตาหมัน\tที่สำคัญคูหาเคยอาไศรย\n", "จะแลลับนับปีแต่นี้ไป\tจะมิได้มาเห็นเหมือนเช่นเคย\n", "เสียแรงแต่งแปลงสร้างจะร้างเริศ\tค่อยอยู่เถิดแผ่นผาคูหาเอ๋ย\n", "โอ้มิ่งไม้ไพรพนมเคยชมเชย\tจะแลเลยลับแล้วทุกแนวเนิน\n", "โอ้นกเอ๋ยเคยพากันมาจับ\tจะแลลับฝูงนกระหกระเหิน\n", "โอ้เขาสูงฝูงหงส์เคยลงเดิน\tเคยเพลิดเพลินพิศวงด้วยหงส์ทอง\n", "จะเริดร้างห่างหงส์ไปดงอื่น\tทุกวันคืนค่ำเช้าจะเศร้าหมอง\n", "โอ้ก้านกิ่งมิ่งไม้เรไรร้อง\tประสานซ้องเสียงดังดูวังเวง\n", "ได้เคยฟังครั้งนี้มาวิบาก\tต้องพลัดพรากเพราะว่าลมทำข่มเหง\n", "แม้นพบเห็นเปนตัวไม่กลัวเกรง\tจะรำเพลงกฤชลาญสังหารลม\n", "นี่จนใจไม่เห็นด้วยเปนเคราะห์\tมาจำเภาะพลัดคู่เคยสู่สม\n", "ยิ่งสุดแสนแค้นขัดอัดอารมณ์\tจะแลชมอื่นอื่นไม่ชื่นใจ\n", "แต่จำเปนเกนหลงมาดงด้วย\tต้องชี้ช่วยชมผาพฤกษาไสว\n", "กรดกระถินอินจันทน์พรรณไม้\tมีดอกใบก้านกิ่งขึ้นพริ้งเพรียว\n", "บ้างแก่อ่อนซ้อนซับสลับสล้าง\tบ้างสดสร่างสีชุ่มชอุ่มเขียว\n", "ที่ตายตอหน่อหนุนขึ้นรุ่นเรียว\tเถาวัลย์เกี่ยวกอดกิ่งเหมือนชิงช้า\n", "พระชวนพลอดกอดน้องประคองอุ้ม\tให้ชมเพลินเดินมงุมมงาหรา\n", "ป่าประเทศเขตรแคว้นแดนชวา\tอินตผาลัมชุมสลุมพัน\n", "โกฏสดำจำปาดะดงองุ่น\tสหัสคุณเข้าระคนปนปาหนัน\n", "สลาสล้างนางแย้มเข้าแกมกัน\tหญ้าฝรั่นฝรั่งเรียงขึ้นเคียงดง\n", "โกฏกระวานกานพลูดูระบัด\tกำจายกำจัดสารพันต้นตันหยง\n", "หอมระรื่นชื่นใจที่ในดง\tพฤกษาทรงเสาวคนธ์ดังปนปรุง\n", "ที่พื้นปราบราบรายล้วนทรายอ่อน\tเข้าดงดอนเลียบเดินเนินกุหนุง\n", "เทียนยี่หร่าป่าฝิ่นส่งกลิ่นฟุ้ง\tสมส้มกุ้งโกฏจุฬาการบูร\n", "คิดถึงนุชบุษบานิจาเอ๋ย\tมิได้เชยชมสบายมาหายสูญ\n", "ยิ่งโศกเสียวเหลียวหาให้อาดูร\tยิ่งเพิ่มภูลพิศวงในดงแดน\n", "ดูเล็บนางนึกถึงนางเหมือนอย่างเล็บ\tเคยข่วนเจ็บรอยมีอยู่ที่แขน\n", "เห็นนมนางกลางพนมนึกชมแทน\tลม้ายแม้นเหมือนเหมือนจะเยื้อนยิ้ม\n", "มะปรางต้นผลอย่างพระปรางน้อง\tน้ำเนตรคลองคลอคล้อยย้อยหยิมหยิม\n", "ฝืนอารมณ์ชมพลับต้นทับทิม\tขึ้นรอบริมหว่างเขาลำเนาเนิน\n", "พนมมาศลาดเลี่ยนเตียนตลิบ\tบ้างสูงลิบลอยแหงนเปนแผ่นเผิน\n", "บ้างทมึนทึนเทิ่งเปนเชิงเทิน\tเปนกรอกเกริ่นโกรกกรวยลำห้วยธาร\n", "เสียงสินธุดุดั้นลั่นพิฦก\tสท้านสทึกโถมฟาดฉาดฉาดฉาน\n", "ที่น้ำโจนโผนพังดังสท้าน\tบ้างพุซ่านสาดสายสุหร่ายริน\n", "คนึงถึงนุชบุษบาแม้นมาเห็น\tจะลงเล่นลำธารละหารหิน\n", "ฝูงปลาทองท่องไล่เล็มไคลกิน\tกระดิกดิ้นดูงามตามกระบวน\n", "ปลาเนื้ออ่อนอ่อนกายขึ้นว่ายเกลื่อน\tไม่อ่อนเหมือนเนื้อน้องประคองสงวน\n", "ปลานวลจันทร์นั้นก็งามแต่นามนวล\tไม่งามชวนชื่นเช่นระเด่นดวง\n", "พลางรีบทัพขับรถกำหนดแสวง\tทุกหล้าแหล่งลำเนาภูเขาหลวง\n", "ไม่ประสบพบเห็นให้เย็นทรวง\tให้เหงาง่วงเงียบเหงาเศร้าพระไทย\n", "ถึงพลมากจากมิตรแต่จิตรเปลี่ยว\tเหมือนมาเดียวดั่งจะพาน้ำตาไหล\n", "เห็นนกหกผกโผนโจนจับไม้\tบ้างฟุบไซ้ปีกหางต่างต่างกัน\n", "นกกระตั้วคลัวเคลียตัวเมียป้อน\tเหมือนขวัญอ่อนแอบประทับพี่รับขวัญ\n", "ป้อนสลาพาชื่นทุกคืนวัน\tมาจากกันกรรมเอ๋ยไม่เคยเปน\n", "เห็นนกเปล้าเคล้าคู่เข้าชูชื่น\tถอนสอื้นเหมือนไม่พอใจเห็น\n", "พอเวลาสายัณห์ตวันเย็น\tนกยูงเล่นลมเพลินบนเนินเตียน\n", "บ้างเยื้องอกหกหางก้อกางปีก\tแฉลกฉลีกเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน\n", "บ้างย่างย่องจ้องประจงที่วงเวียน\tออกกลางเตียนตีนขวิดดูกรีดกราย\n", "คิดถึงไปใช้บนได้ยลสมร\tเมื่อทอดกรฟ้อนรำรบำถวาย\n", "โอ้อาภัพลับนุชสุดเสียดาย\tสอื้นอายมยุราให้อาวรณ์\n", "เห็นเขาเขียวเดี่ยวโดดล้วนโสดสูง\tแต่ล้วนฝูงหงส์จับสลับสลอน\n", "หงส์ก็งามตามอย่างเพราะหางงอน\tเปนคู่ป้อนปกปิดกันชิดชม\n", "อรหันนั้นหน้าเหมือนมนุษย์\tปีกเหมือนครุธครีบเท้ามีเผ้าผม\n", "พวกม่าเหมี่ยวเที่ยวเดินเนินพนม\tลูกเล็กล้มลากจูงเหมือนฝูงคน\n", "เหล่าเลมาะเงาะป่าคุลาอยู่\tเที่ยวกินปูเปี้ยวป่าผลาผล\n", "สิงโตตื่นยืนหยัดสบัดตน\tเห็นผู้คนโผนข้ามลำเนาเนิน\n", "ฝูงมฤคถึกเถื่อนเที่ยวเกลื่อนกลุ้ม\tเปนคู่คุมเคียงนางไม่ห่างเหิน\n", "เห็นกวางทองย่องเยื้องชำเลืองเดิน\tเหมือนน้องเชิญพานผ้าประหม่าเมียง\n", "พี่เข้าด้วยช่วยประคองพระน้องนุช\tสงสารสุดสุดสวาทไม่อาจเถียง\n", "โอ้ยามนี้มิได้น้องประคองเคียง\tพี่ก็เสี่ยงบุญตามเจ้าทรามเชย\n", "เปนกุศลหนหลังเราทั้งสอง\tคงได้น้องคืนมาเรียงเคียงเขนย\n", "แม้นกรรมหนุนบุญน้อยจะลอยเลย\tมิได้เชยบุษบาพงางอน\n", "พระครวญคร่ำร่ำไรมาในรถ\tโศกกำสรดแสนเสียดายสายสมร\n", "พอเวลาสายัณห์ตวันรอน\tปักษาร่อนรีบกลับมาจับรัง\n", "โอ้นกเอ๋ยเคยอยู่มาสู่ถิ่น\tแต่ยุพินลิบลับไม่กลับหลัง\n", "ครั้นแลดูสุริแสงก็แดงดัง\tหนึ่งน้ำครั่งคล้ำฟ้านภาไลย\n", "เหมือนครั้งนี้พี่มาโศกแสนเทวษ\tชลเนตรแดงเดือดดังเลือดไหล\n", "โอ้ตวันครั้นจะลบภพไตร\tก็อาไลยโลกยังหยุดรั้งรอ\n", "ประหลาดนักรักเอ๋ยมาเลยลับ\tเหมือนเพลิงดับเด็ดเดี่ยวไปเจียวหนอ\n", "ชลไนยไหลหลั่งลงคลั่งคลอ\tยิ่งเย็นย่อเสียวทรวงให้ร่วงโรย\n", "ชนีน้อยห้อยไม้เรไรร้อง\tเสียงแซ่ซ้องเริมรัวเรียกผัวโหวย\n", "เหมือนอกพี่ที่ถวิลให้ดิ้นโดย\tลห้อยโหยหานางมากลางไพร\n", "พระสุริยงค์ลงลับพยับค่ำ\tถึงแนวน้ำเนินผาพฤกษาไสว\n", "หยุดสำนักพักพลสกลไกร\tพระเนาในรถทองกับน้องยา\n", "ถนอมแนบแอบองค์หลงหนึ่งหรัด\tให้บรรธมโสมนัสในรัถา\n", "ต้องจากวังครั้งนี้เพราะพี่พา\tพระน้องมาอ้างว้างวังเวงใจ\n", "นอนเถิดหนายาหยีพี่จะกล่อม\tงามละม่อมมิ่งขวัญอย่าหวั่นไหว\n", "คิรีรอบขอบเคียงเหมือนเวียงไชย\tอยู่ร่มไม้เหมือนปราสาทราชวัง\n", "เคยสำเนียงเสียงนางสุรางค์เห่\tมาฟังเรไรแซ่เหมือนแตรสังข์\n", "เคยมีวิสูตรรูดกั้นบนบัลลังก์\tมากำบังใบไม้ในไพรวัน\n", "หนาวน้ำค้างกลางคืนสอื้นอ้อน\tจะกางกรกอดน้องประคองขวัญ\n", "เอาดวงดาราระยับกับพระจันทร์\tต่างช่อชั้นชวาลาระย้าย้อย\n", "จักรจั่นหวั่นแว่วแจ้วแจ้วเสียง\tต่างสำเนียงขับครวญหวนละห้อย\n", "พระพายเอ๋ยเชยมาต้องพระน้องน้อย\tเหมือนนางคอยหมอบกรานอยู่งานพัด\n", "โอ้เวลาปานฉนี้เจ้าพี่เอ๋ย\tกะไรเลยแลเงียบเซียบสงัด\n", "น้ำค้างเผาะเหยาะเย็นกระเซ็นซัด\tดึกสงัดดวงจิตรจงนิทรา\n", "พระขวัญเอ๋ยเคยนอนอย่าร่อนเร่\tไปว้าเหว่หว่างไม้ไพรพฤกษา\n", "ขวัญมาอยู่สู่ที่พระพี่ยา\tพระมารดาบิตุเรศนิเวศน์เวียง\n", "พระขวัญเอ๋ยเคยแอบแนบถนอม\tมาฟังกล่อมกลอนเพราะเสนาะเสียง\n", "โอ้แรมล่วงดวงเดือนก็เลื่อนเอียง\tพี่พิศเพียงพักตร์แฝงพลิกแพลงบัง\n", "บุษบายาหยีเจ้าพี่เอ๋ย\tช่างลอยเลยลิบลับไม่กลับหลัง\n", "เมื่ออุ้มออกนอกเขตรนิเวศน์วัง\tพระน้องนั่งรถทรงที่ตรงริม\n", "พี่หยอกเย้าเซ้าซี้มีแต่โกรธ\tสอื้นโอษฐโอษฐเอี่ยมเสงี่ยมหงิม\n", "อยู่ใกล้เคียงเพี้ยงเอ๋ยได้เชยชิม\tถนอมนิ่มเนื้อน่วมร่วมฤไทย\n", "พระครวญคร่ำรำฦกจนดึกเงียบ\tเย็นระเยียบหย่อมหญ้าพฤกษาไสว\n", "สงบเสียงสิงสัตว์สงัดไพร\tทุกกอกิ่งมิ่งไม้พระไทรครึ้ม\n", "สุมาลย์บานกลิ่นระรินรื่น\tในเที่ยงคืนเสียงแต่ผึ้งหึ่งกระหึม\n", "ผีพระไทรไม้พุ่มงุมงุมงึม\tโขมดพึมผิวกู่หวิวหวูโวย\n", "เหล่ามารยาป่าโป่งเที่ยวโทงเถื่อน\tตะโกนเพื่อนเพิกเสียงสำเนียงโหย\n", "น้ำค้างพรมลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยโชย\tยิ่งดิ้นโดยเดือนดับไม่หลับเลย\n", "จนทรวงเจ็บเหน็บแน่นแหงนดูฟ้า\tองค์ปะตาระกาหลาเจ้าข้าเอ๋ย\n", "พระน้องนุชบุษบาเจ้าข้าเคย\tเปนคู่เชยชมชื่นให้คืนมา\n", "ทั้งโกสีย์ตรีเนตรเห็นเหตุสิ้น\tว่ายุพินอยู่ที่ไหนนำไปหา\n", "หาไม่ฉันวานแต่พระสุชาดา\tช่วยอุ้มพามาให้พบประสบกัน\n", "ทั้งพรหมานวานแต่พาหนะหงส์\tจะได้ทรงเหาะแสวงทุกแห่งสวรรค์\n", "แม้นได้นุชบุษบาวิลาวรรณ\tจะทำขวัญหงส์พรหมให้สมยศ\n", "จนพลบค่ำรำฦกนึกอนาถ\tไม่ไสยาสน์ยามวิโยคโศกกำสรด\n", "จนแจ่มแจ้งแสงตวันให้รันทด\tให้ยกทัพขับรถเลี้ยวลดเดิน\n", "ทุกแว่นแคว้นแดนชวาสุธาทวีป\tเที่ยวเร็วรีบรอบเกาะดังเหาะเหิน\n", "ไม่พบเห็นเปนเคราะห์จำเภาะพเอิญ\tไปจนเกินมลากาภาราราย\n", "เมืองระตูรู้ทั่วกลัวอำนาจ\tต่างแต่งราชธิดามาถวาย\n", "ไม่ไยดีอีนังแต่ซังตาย\tแม้นแก้วหายได้ปัดไม่ทดเทียม\n", "แม้นมิเหมือนเพื่อนเชยที่เคยชิด\tไม่ขอคิดนึกหน่ายละอายเหนียม\n", "แต่ปราไสไต่ถามตามธรรมเนียม\tไม่และเลียมเลยแสวงทุกแห่งไป\n", "ถึงเจ็ดเดือนเคลื่อนคลาศประหลาดแล้ว\tไม่พบแก้วกลอยจิตรพิสมัย\n", "จนพระรูปซูบผอมเพราะตรอมใจ\tทั้งนายไพร่พลนิกรอ่อนกำลัง\n", "จนถึงทางร่วมที่บุรีรัตน์\tที่จะตัดมรคาไปกาหลัง\n", "เห็นเขาเขินเนินร่มพนมวัง\tต้นดงรังครึกครื้นระรื่นเย็น\n", "ที่ธารถ้ำน้ำพุทลุลั่น\tเปนช่องชั้นบัลลังก์น่านั่งเล่น\n", "ผลาผลหล่นกลาดดาษกระเด็น\tดอกไม้เปนดอกพร้อมหอมรัญจวน\n", "จะใคร่บวชสวดมนต์อยู่บนเขา\tเพราะแสนเศร้าสุดจะตามทรามสงวน\n", "แม้นมิตามความรักเฝ้าชักชวน\tให้ปั่นป่วนไปตามเพราะความรัก\n", "จะหักอื่นขืนหักก็จักได้\tหักอาไลยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก\n", "สารพัดตัดขาดประหลาดนัก\tแต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ\n", "จะสร้างพรตอดรักหักสวาท\tเผื่อจะขาดข้อคิดพิสมัย\n", "แม้นน้องนุชบุษบานิคาไลย\tจะได้ไปสู่สวรรค์ชั้นโสฬศ\n", "จึงหยุดทัพยับยั้งตั้งอาศรม\tรักษาพรหมจรรยด้วยกันหมด\n", "ปะตาปาอายันอยู่บรรพต\tอุส่าห์อดอาไลยก็ไม่คลาย\n", "ภาวนาว่าจะตั้งปลงสังเวช\tก็หลับเนตรเห็นคู่ไม่รู้หาย\n", "จะสวดมนต์ต้นถูกไปผูกปลาย\tก็กลับกลายเรื่องราวเปนกล่าวกลอน\n", "คิดถึงนุชบุษบาออกมานั่ง\tบนบัลลังก์เหลี่ยมผาหน้าศิงขร\n", "พระตรวจน้ำร่ำว่าด้วยอาวรณ์\tหวังสมรเหมือนจะคลาศในชาติ์นี้\n", "จะอุส่าห์ปะตาปารักษากิจ\tอวยอุทิศผลผลาถึงยาหยี\n", "จะเกิดไหนในจังหวัดปัถพี\tให้เหมือนปี่กับขลุ่ยต้องทำนองกัน\n", "เปนจีนจามพราหมณ์ฝรั่งแลอังกฤษ\tให้สนิทเสนหาตุนาหงัน\n", "แม้นเปนไทยให้เปนวงศ์ร่วมพงศ์พันธุ์\tพอโสกันต์ให้ได้อยู่เปนคู่ครอง\n", "ครั้นกรวดน้ำสำเร็จเสด็จกลับ\tเข้าห้องหับโหยไห้พระไทยหมอง\n", "ทุกเช้าค่ำรำฦกเฝ้าตรึกตรอง\tจนขาดครองคราวสวาทนิราศเอย ๚ะ\n" ] ]